สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องหมุนเงินตัวเป็นเกลียว ยิ่งถ้าต้องเป็นหนี้บัตรเครดิตหลายใบ อาจทำให้การจัดการด้านการเงินของคุณยุ่งยากและซับซ้อนมากกว่าที่เป็นอยู่ การกู้เงินเพื่อปิดบัตรเครดิตหลายๆ ใบให้อยู่ในก้อนเดียว อาจเป็นทางเลือกที่ดีในการแก้ปัญหาหนี้สิน และช่วยให้คุณบริหารจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

AD_4nXedWFeXQhmB7XUthNQnpUFamQKfPEDNm7ERHHwYfx0-sMSIuovze-y-atibhzKMnptx0HDbrRvqhMXWzuYDMC-oT0aSyCL8sO2OlHLKKvcYIECvjKac1_d4xNeOq1iRXYR6v83-oA.png

ข้อดีของการกู้เงินปิดบัตรเครดิตให้อยู่ในก้อนเดียว

  • ลดภาระดอกเบี้ย: บัตรเครดิตมักมีอัตราดอกเบี้ยที่สูง การรวมหนี้เป็นก้อนเดียวด้วยการกู้เงิน (เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล) ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยโดยรวม ทำให้คุณประหยัดเงินและปลดหนี้ได้เร็วขึ้น
  • จัดการหนี้ได้ง่ายขึ้น: การมีหนี้ก้อนเดียว จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของหนี้สินได้ชัดเจนขึ้น ทั้งยังง่ายต่อการติดตามและวางแผนการชำระหนี้ ไม่ต้องกังวลกับการจ่ายเงินหลายๆ ที่ ลดความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้
  • ลดความเครียด: การจัดการหนี้หลายๆ ก้อน อาจทำให้เกิดความเครียด การรวมหนี้เป็นก้อนเดียว ช่วยลดความกังวล ทำให้คุณมีสมาธิกับการใช้ชีวิตและวางแผนอนาคตได้ดีขึ้น
  • ปรับปรุงเครดิต: การชำระหนี้ได้ตรงเวลา ช่วยเพิ่มคะแนนเครดิตของคุณ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการขอสินเชื่อในอนาคต เช่น การขอสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ เป็นต้น

วางแผนการเงินหลังกู้เงินปิดบัตรเครดิตอย่างไร ให้มีสภาพคล่องและมีเงินเก็บ

หลังจากที่คุณรวมหนี้บัตรเครดิตเป็นก้อนเดียวแล้ว สิ่งสำคัญคือการวางแผนการเงินอย่างมีวินัย เพื่อให้มีสภาพคล่องที่ดี และมีเงินเก็บออมในอนาคต สำหรับใครที่กู้เงินปิดบัตรเครดิตมาแล้ว และต้องการหาแนวทางในการวางแผนการเงินเพื่อให้เกิดสภาพคล่องระยะยาว สามารถนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้กันได้

1. จัดทำงบประมาณ 

  • บันทึกรายรับรายจ่าย: จดบันทึกรายรับและรายจ่ายทั้งหมดของคุณ เพื่อให้ทราบว่าเงินของคุณถูกใช้ไปกับอะไรบ้าง
  • แยกแยะค่าใช้จ่าย: แบ่งค่าใช้จ่ายออกเป็นหมวดหมู่ เช่น ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น (ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าที่อยู่อาศัย) และค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น (ค่าบันเทิง ช้อปปิ้ง)
  • กำหนดเป้าหมายการออม: ตั้งเป้าหมายว่าคุณต้องการออมเงินเท่าไหร่ต่อเดือน และวางแผนการออมเงินอย่างเป็นระบบ เช่น การหักเงินออมอัตโนมัติ การลงทุนในกองทุนรวม เป็นต้น

2. ควบคุมค่าใช้จ่าย 

  • ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น: พิจารณาตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น การทำอาหารทานเองแทนการซื้ออาหารนอกบ้าน การใช้บริการขนส่งสาธารณะแทนการขับรถยนต์ส่วนตัว
  • ใช้จ่ายอย่างมีสติ: ก่อนซื้อสินค้าหรือบริการใดๆ ให้พิจารณาถึงความจำเป็น และเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ แหล่ง เพื่อให้ได้สินค้าหรือบริการในราคาที่คุ้มค่าที่สุด
  • หลีกเลี่ยงการสร้างหนี้ใหม่: ระมัดระวังในการใช้จ่าย และพยายามหลีกเลี่ยงการสร้างหนี้ใหม่ โดยเฉพาะหนี้จากบัตรเครดิต

3. เพิ่มรายได้ 

  • หารายได้เสริม: มองหาโอกาสในการหารายได้เสริม เช่น การทำงานพาร์ทไทม์ การขายของออนไลน์ การรับงานฟรีแลนซ์
  • พัฒนาศักยภาพ: ลงทุนในตัวเองด้วยการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงานและเพิ่มรายได้ในอนาคต

4. สร้างวินัยทางการเงิน 

  • ชำระหนี้ตรงเวลา: ชำระหนี้เงินกู้และค่าใช้จ่ายต่างๆ ตรงเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับและดอกเบี้ย และรักษาเครดิตของคุณให้ดี
  • ออมเงินอย่างสม่ำเสมอ: ฝึกฝนนิสัยการออมเงินอย่างสม่ำเสมอ แม้จะเป็นจำนวนเงินเล็กน้อยก็ตาม
  • ทบทวนแผนการเงิน: ทบทวนแผนการเงินของคุณเป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง และปรับแผนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

5. ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ

  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน: หากคุณมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำในการวางแผนการเงิน สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน เช่น นักวางแผนการเงิน หรือเจ้าหน้าที่ธนาคาร

การกู้เงินปิดบัตรเครดิตให้อยู่ในก้อนเดียว เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาหนี้สิน แต่สิ่งสำคัญคือการวางแผนการเงินอย่างมีวินัย ทั้งยังจะต้องควบคุมค่าใช้จ่าย พร้อมกับหารายได้เพิ่มในช่องทางต่างๆ เพิ่มเติมด้วย เพียงเท่านี้คุณก็จะมีสภาพคล่องที่ดีขึ้น และมีเงินเก็บออมในอนาคตอย่างที่คาดหวังเอาไว้

Comments

comments